“เปิด” ไม่ต้อง “ปิด” บทเรียนชีวิตเรื่องเพศศึกษา

“เปิด” ไม่ต้อง “ปิด” บทเรียนชีวิตเรื่องเพศศึกษา

Loading

สังคมปัจจุบันใคร ๆ ก็พูดกันว่า เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องที่ควรจะปิดกั้นลูก เป็นเรื่องที่ควรให้ลูกได้เรียนรู้ ยิ่งคุยเร็ว ยิ่งทำให้ลูกได้รู้เท่าทันมีทักษะในการเอาตัวรอด ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ แต่คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านก็อาจจะรู้สึกว่า การคุยเรื่องเพศเป็นการชี้โพรงให้กระรอก มาลองดูกันว่าเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้เราไม่ควรปิดกั้นเรื่องเพศ

เพศศึกษาไม่ใช่แค่ SEX 

เพศศึกษานั้นกว้างไกลกว่าเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ เป็นการเรียนรู้ทั้งเรื่องความแตกต่างทางสรีระระหว่างเพศหญิงและเพศชาย พฤติกรรมการแสดงออกที่แตกต่างกันของแต่ละเพศในแต่ละช่วงวัย การดูแลสุขอนามัยทางเพศ การคุมกำเนิด ทัศนคติและค่านิยมที่ดี เพื่อปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสมและใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข ผู้ปกครองจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้กับลูกหลาน ซึ่งจะทำให้เด็กมีสุขอนามัยทางเพศที่ดี และช่วยแก้ไขปัญหาสังคม เช่น การตั้งครรภ์ในวัยเรียน ได้อย่างยั่งยืนด้วย

ถึงไม่พูดก็หาทางรู้เอง 

ธรรมชาติของเด็กมีความอยากรู้ ยากลองตามช่วงวัย ยิ่งปัจจุบันเด็กใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับสื่อแทบตลอดเวลา ถึงพ่อแม่ไม่เป็นคนชวนคุยในเรื่องนี้ เจ้าตัวเล็กของคุณก็จะเข้าถึงเรื่องเหล่านี้อยู่ดี จึงดีกว่าหากพ่อแม่จะเป็นคนให้ความรู้ที่ถูกต้องกับลูกเอง แทนที่จะปล่อยให้เขาเรียนรู้ผิด ๆ ถูก ๆ จากสื่อหรือจากเพื่อนในวัยเดียวกัน เพราะเรื่องเพศมีประเด็นที่แตกต่างหลากหลาย เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัยของการเติบโต บางประเด็นมีความอ่อนไหวและซับซ้อน อย่างเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศ คุณพ่อคุณแม่จึงควรเป็นคนเปิดการเรียนรู้และเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกเขา

ลดความเสี่ยงเลี่ยงปัญหา

การปิดกั้นเรื่องเพศจะทำให้เด็กสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องเพศในแนวทางที่ถูกต้อง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางสุขอนามัย การเข้าสังคม การพัฒนาความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม การถูกคุกคามทางเพศ การเกิดโรคทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ ซึ่งส่งผลต่ออนาคตของเด็ก การให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาซึ่งต้องใช้เวลาต่อเนื่องยาวนาน จึงควรเปิดกว้างในการพูดคุย สร้างความใกล้ชิดและไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างพ่อแม่ลูก โอกาสที่จะเกิดประโยชน์ต่อตัวเด็ก เลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นจึงมีมากตามไปด้วย

คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร การพูดคุยเรื่องเพศก็เหมือนการคุยเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน เริ่มต้นจากการสร้างความความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูก เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ พยายามสร้างโอกาสที่เหมาะสมในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยอาจจะยกเอาข่าว หรือละครที่นั่งดูด้วยกัน มาเป็นหัวข้อสนทนาก็ได้

ก่อนพูดคุยคุณพ่อคุณแม่ต้องความรู้และเตรียมทำการบ้านมาอย่างดีก่อน เพื่อไม่ส่งต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้ลูก แต่ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามได้ทุกเรื่องหากมีเรื่องที่ลูกถามแล้วไม่รู้ ก็อาจจะชวนลูกไปค้นคว้าหาคำตอบด้วยกัน หัวข้อที่เลือกมาสนทนาก็ควรเหมาะสมกับช่วงวัย

หัวใจของการคุยเรื่องเพศที่ได้ผลดี ไม่ได้อยู่ที่การพูดเท่านั้น แต่อยู่ที่การเปิดใจ “รับฟัง” ความคิดเห็นของลูกด้วย 

.

ที่มา : มติชนออนไลน์