เมื่อลูกชายอยากแต่งหญิง ลูกหญิงอยากแต่งชาย พ่อแม่ทำไงดี

เมื่อลูกชายอยากแต่งหญิง ลูกหญิงอยากแต่งชาย พ่อแม่ทำไงดี

Loading

เมื่อลูกชายอยากสวมชุดเดรสกรุยกราย ส่วนลูกสาวหาแต่กางเกงมาใส่ แต่งกายแบบทอมบอย คุณพ่อคุณแม่บางบ้านอาจจะไม่เห็นว่าเป็นปัญหา แต่บางครอบครัวอาจจะกังวลกับพฤติกรรมหรือความชอบของลูกที่ดูจะผิดฝาผิดตัว แล้วจะทำอย่างไรดี?

ในวัย 3-4 ปี เด็กจะยังไม่สามารถแยกบทบาทระหว่างเพศได้ แต่จะเริ่มสนใจความแตกต่างของร่างกาย เกิดการเปรียบเทียบร่างกายกับคนรอบข้าง จนอายุ 5-8 ปี จึงจะแยกบทบาทของชายหญิงได้ เรียนรู้ว่าผู้ชายต้องใส่กางเกง ผู้หญิงต้องใส่กระโปรง ผู้ชายไว้ผมสั้น ผู้หญิงไว้ผมยาว และเมื่อเข้าสู่วัย  9-12 ปี ความสนใจเพศตรงข้ามจะมีมากขึ้น เกิดการรวมกลุ่มเพศเดียวกันชัดเจนขึ้น กิจกรรมที่เด็ก ๆ ทำก็จะเริ่มเห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันระหว่างหญิงและชาย แต่การเรียนรู้บทบาททางเพศของตนจะเริ่มเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น

ดังนั้น การที่เด็กเล็กในวัย 3-8 ปี อยากแต่งกายไม่ตรงกับเพศสภาพตนเอง หรือชอบทำกิจกรรมที่ต่างจากเพศตนเอง เช่น ลูกชายชอบเล่นตุ๊กตา หรือเล่นขายของ ลูกสาวชอบเล่นหุ่นยนต์ เล่นรถยนต์ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจในเรื่องดังกล่าว เจ้าตัวเล็กอาจจะแค่อยากรู้อยากเห็น หรือชอบกิจกรรมที่ทำ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถเป็นแบบอย่างและสนับสนุนพฤติกรรมการแสดงบทบาททางเพศที่ถูกต้องให้กับลูกได้ ดังนี้

บอกบทบาททางเพศ 

อธิบายหรือแนะนำเรื่องบทบาททางเพศแก่ลูก เพื่อสร้างการเรียนรู้ถึงบทบาททางเพศของตนเอง เช่น ชุดแบบไหนเหมาะกับเพศหญิง เพศชาย เป็นต้น 

ไม่เห็นเป็นเรื่องสนุก 

ผู้ใหญ่หลายคนเห็นเป็นเรื่องสนุกสนานและหัวเราะชอบใจ เมื่อเด็กแต่งกายหรือแสดงออกไม่ตรงกับเพศของตนเอง ทำให้เด็กเห็นว่าสามารถทำให้ผู้ใหญ่สนใจหรือหัวเราะได้ สิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว 

อยากใส่ก็ให้ลอง 

เมื่อเด็กอยากใส่ชุดที่อาจจะไม่ตรงกับบทบาททางเพศ คุณพ่อคุณแม่ควรให้โอกาสให้เด็กได้ทดลอง พร้อมกับอธิบายถึงการแต่งกายที่เหมาะสมกับเพศของลูกให้เด็กได้รับรู้ แต่หากเขายังต้องการแต่งกายดังกล่าวก็ไม่ควรตำหนิ หรือลงโทษ  

สร้างทัศคติที่ดีให้ลูก 

คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่แสดงท่าทีรังเกียจหรือสร้างความรู้สึกว่าเกลียดเพศใดเพศหนึ่งให้กับลูก เพราะอาจทำให้เด็กเกิดความสับสน และเป็นการปลูกฝังทัศนคติทางเพศที่ไม่ดีให้เกิดขึ้นกับลูก

อย่างไรก็ตาม หากลูกของคุณพ่อคุณแม่เติบโตขึ้น และเลือกบทบาททางเพศที่ไม่ตรงกับเพศสภาพของตนเอง ก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเสียใจหรือไปบังคับฝืนใจลูก เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกกดดัน บางคนอาจถึงขั้นหมดความนับถือตนเอง ส่งผลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาบุคลิกภาพของลูกในอนาคต คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดใจยอมรับ เข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น อยู่เคียงข้างและให้แนะนำในสิ่งที่เหมาะสมให้กับเขา เพื่อให้ลูกเติบโตและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข