แม่จ๋า! เพื่อนจับจิ๋มหนู

แม่จ๋า! เพื่อนจับจิ๋มหนู

Loading

เด็กวัยอนุบาลอาจจะวิ่งมาฟ้องหรือเล่าถึงเรื่องที่เล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ฟังตามประสาเด็กหลังเลิกเรียน แต่เมื่อไรที่ลูกบอกว่า “เพื่อนจับจิ๋ม/จู๋” คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ หรือเห็นเป็นเรื่องตลกเพราะว่าลูกยังเล็กเกินกว่าจะคิดเรื่องอย่างว่า 

เด็กถูกจับอวัยวะเพศ หรือไปจับอวัยวะเพศเพื่อน ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความสำคัญและต้องสอนลูกให้รู้ถึงสิทธิบนเนื้อตัวร่างกายของตนเองอย่างจริงจัง โดยสามารถสอนลูกได้ทุกเพศทุกวัย และการสอนต้องไม่ใช่ครั้งเดียวจบ แต่ต้องทำให้เห็นและเป็นแบบอย่าง ปลูกฝังและสร้างความตระหนักการเคารพสิทธิในร่างกายของผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง บอกให้ลูกรู้ว่าอวัยวะหรือพื้นที่ส่วนไหนของร่างกายที่ไม่ควรให้ผู้อื่นสัมผัส หากเป็นเด็กเล็กระดับอนุบาลซึ่งพูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว เมื่อพ่อแม่จะทำความสะอาดร่างกาย เช่น อาบน้ำ ล้างก้น ล้างจู๋/จิ๋ม ให้ขออนุญาตก่อน เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าเป็นจุดสงวนที่ต้องได้รับการยินยอม แม้แต่พ่อแม่เองก็ยังขออนุญาต ดังนั้นผู้อื่นจะมาสัมผัสถือเป็นการรุกล้ำสิทธิ และอาจมีเจตนาไม่ดี   

การสอนในเรื่องดังกล่าวมีแนวทางที่พ่อแม่ต้องบอก เพื่อให้เด็กรู้ว่า การเล่นจับจู๋ จับจิ๋ม ไม่ใช่เรื่องสนุกและลูกต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้น รวมถึงไม่เล่นกับเพื่อนแบบเดียวกันคือ

1. จริงจัง 

การคุยกับลูกเรื่องนี้ ต้องใช้สีหน้าท่าทางจริงจัง ไม่ล้อเล่น แต่ไม่โกรธ ไม่ดุ จนเกินไป เพื่อให้ลูกรู้ว่าเป็นเรื่องที่ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ 

2. บอกหน้าที่ของอวัยวะ 

เรื่องสิทธิบนเนื้อตัวร่างกาย สามารถสอนเด็กได้ตั้งแต่ลูกอายุ 2 -3 ปีขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกรู้ถึงหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายอย่างง่าย ๆ เช่น ขามีไว้เดิน มือมีไว้หยิบ จับสิ่งของ จิ๋มหรือจู๋มีไว้ฉี่แต่กำชับอย่างจริงจังว่า จู๋และจิ๋มห้ามคนอื่นเห็นและจับเด็ดขาด

3. ไม่เปลือยกายต่อหน้าใคร 

พ่อแม่ควรสอนให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดร่างกายและให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแม้จะอยู่ในบ้านที่มีแต่พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ก็ตาม อย่างน้อยก็ต้องมีผ้าเช็ดตัวปกปิดเวลาออกจากห้องน้ำ อย่าให้เดินโป๊ไปมาในบ้าน จะทำให้เด็กเข้าใจเรื่องพื้นที่ส่วนตัว และรู้ว่าเรื่องไหนที่เป็นเรื่องต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง

นอกเหนือจากเรื่องสิทธิในร่างกายแล้ว คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมบอกเจ้าตัวเล็กไว้ด้วยนะคะว่า หากมีใครมาเปิดกระโปรง หรือมาจับเนื้อตัวในจุดสงวน เขาสามารถจะปฏิเสธ หรือบอกให้ “หยุด” ได้ และให้บอกคุณครูหรือพ่อแม่รับทราบ ไม่ใช่เรื่องลูกต้องปิดบัง 

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังเรื่องสิทธิในร่างกายตนเองให้เด็กตั้งแต่ยังเล็ก โอกาสที่ลูกจะถูกล่วงละเมิดก็จะน้อยลงด้วย