แม้คุณพ่อคุณแม่รู้ดีว่าการพูดคุยกับลูกเรื่องเพศ ควรเริ่มพูดคุยกันตั้งแต่ลูก ๆ ยังเด็ก เพราะยิ่งคุยกับลูกได้เร็วเท่าไร คุณพ่อคุณแม่ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะสร้างทักษะในการดำเนินชีวิตและปลูกฝังทัศนคติเรื่องเพศที่เหมาะสมให้กับลูก แต่บางครั้งเจ้าตัวเล็กก็ผุดคำถามช็อตฟิลคุณพ่อคุณแม่ขึ้น ทำให้หาคำตอบให้ไม่ทันกันเลยทีเดียว
วันนี้เรารวบรวมคำถามยอดฮิตเรื่องเพศที่เด็กมักเกิดความสงสัย พร้อมคำตอบง่าย ๆ เป็นแนวทางเบื้องต้นที่ให้คุณพ่อคุณแม่ใช้คลายความสงสัยแก่เจ้าตัวเล็กกันค่ะ
หนูเกิดมาได้อย่างไร?
เด็กเล็กมักสงสัยว่าตัวเองเกิดมาได้อย่างไร ซึ่งเรื่องระบบสืบพันธุ์เป็นเรื่องซับซ้อนเกินการรับรู้ของเด็กวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถตอบคำถามได้ง่าย ๆ ว่า “เกิดจากความรักของพ่อกับแม่ เมื่อมาอยู่ด้วยกันจึงเกิดมาเป็นหนู”
มีเด็กเข้าไปอยู่ในท้องได้อย่างไร?
คุณพ่อคุณแม่อาจจะเจอคำถามนี้เมื่อเด็กเห็นหญิงตั้งครรภ์ อาจบอกกับลูกว่า “เมื่อพ่อแม่รักกัน เรากอดกันอย่างแนบแน่น แล้วอสุจิของพ่อก็ไปรวมกับไข่ในร่างกายแม่ แล้วเกิดเป็นตัวหนูอยู่ในท้องแม่ เด็กคนอื่น ๆ ก็เป็นแบบนั้น” ซึ่งแม้ว่าเด็กจะไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แต่ถือเป็นการให้ข้อมูลที่พื้นฐานที่เป็นความจริง
ทำไมเพื่อนมีอวัยวะเพศไม่เหมือนกับของหนู?
เมื่อได้ยินประโยคคำถามนี้ สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำคือ ไม่แสดงท่าทีเขินอาย หรือตกใจกับคำถามของลูก อธิบายด้วยความรู้สึกปกติ “เพราะลูกเป็นผู้หญิงจึงมีจิ๋ม ส่วนผู้ชายจะมีจู๋”และยังถือเป็นโอกาสที่คุณพ่อคุณแม่จะเสริมเรื่องสิทธิบนเนื้อตัวร่างกายของตนเองให้แก่ลูก โดยบอกให้รู้ว่า อวัยวะเพศเป็นพื้นที่ต้องห้าม ห้ามให้ใครสัมผัสยกเว้นเจ้าตัว หรือพ่อแม่ขณะอาบน้ำให้ หรือคุณหมอเพื่อตรวจร่างกายโดยต้องมีพ่อแม่อยู่ด้วย รวมทั้งบอกให้รู้ว่าเขาเองก็ไม่ควรไปสัมผัสอวัยวะเพศของเพื่อนหรือของใครก็ตามด้วย
ทำไมผู้ชายยืนฉี่ได้ ผู้หญิงยืนฉี่ไม่ได้?
เป็นปกติที่เจ้าตัวเล็กจะเกิดคำถามเช่นนี้ คุณพ่อคุณแม่ใช้โอกาสนี้อธิบายถึงความแตกต่างทางกายภาพระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย “ผู้หญิงก็ยืนฉี่ได้แต่จะเปียกกางเกงเพราะอวัยเพศไม่เหมือนกัน อวัยวะเพศผู้ชายยื่นยาวทำให้ผู้ชายยืนฉี่ได้โดยไม่เปียกกางเกง แต่อวัยวะเพศของผู้หญิงแบนกว่า เวลายืนฉี่จะทำให้ฉี่เปียกกางเกงได้ง่ายกว่า”
หากคุณพ่อคุณแม่เจอคำถามช็อตฟิลจากลูกแล้วไม่รู้จะตอบอย่างไร อาจจะบอกกับเจ้าตัวเล็กว่า “พ่อ/แม่ขอไปหาคำตอบก่อนนะ แล้วจะมาตอบหนู หรือชวนให้หาคำตอบไปด้วยกัน” อาจจะไปหาสื่อที่ช่วยให้เด็กเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นมาช่วยอธิบาย หากรู้สึกว่าเป็นเรื่องอธิบายลำบาก แต่ต้องไม่ลืมมาตอบลูกนะคะ
