เจ้าตัวเล็กวัย3-5 ปี รู้เรื่องเพศแค่ไหน คุยอะไรด้วยดี

เจ้าตัวเล็กวัย3-5 ปี รู้เรื่องเพศแค่ไหน คุยอะไรด้วยดี

Loading

หากบอกว่า คุณพ่อ คุณแม่สามารถพูดคุยเรื่องเพศกับลูกได้ตั้งแต่อายุ 3-5 ขวบ คุณพ่อ คุณแม่หลายท่านอาจจะยกมือทาบอก! เพราะรู้สึกว่า “ลูกเล็กขนาดนั้นจะให้ไปคุยอะไรกับลูก” แต่ในความจริง เราสามารถพูดคุยกับลูกได้ตั้งแต่เขาอายุ 3-5 ขวบ 

เพียงแต่การพูดคุยเรื่องเพศ ต้องเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับช่วงวัย เพราะเรื่องเพศไม่ได้หมายความถึงเรื่องเซ็กซ์ แต่หมายรวมถึงเรื่องพฤติกรรม สุขภาวะทางเพศ ค่านิยม ความรู้เรื่องเพศ เป็นต้น 

แล้วจะคุยเรื่องอะไรกับเจ้าตัวเล็ก? 

จะเริ่มต้นคุยนั้น คุณพ่อ คุณแม่ควรรู้ว่าเด็กในวัยนี้มีพัฒนาการเรื่องเพศตามช่วงวัยอย่างไร เพื่อให้เริ่มบทสนทนาได้อย่างเหมาะสม 

ขวบแรก 

เด็กมีความสุขจากการสัมผัสและการดูด มักนำสิ่งของเข้าปากโดยอัตโนมัติ และเรียนรู้วัตถุจากการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ในวัย 9-10 เดือน เด็กจะแสดงออกด้วยวิธี “กัด” และ “เคี้ยว” บางขณะเด็กอาจมีการถูไถอวัยวะเพศซึ่งเกิดขึ้นได้โดยบังเอิญ รวมถึงอาจมีการโยกตัว ส่ายศีรษะ และเล่นตัวเอง ซึ่งพบได้ในเด็กที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร ซึ่งความสุขของเด็กในวัยนี้ เป็นรากฐานที่ทำให้เด็กมีความเชื่อมั่นในตนเอง และมองโลกในแง่ดี

ขวบที่ 2

วัยนี้เด็กเริ่มจะแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และให้ความสนใจกับสิ่งแวดล้อมที่พบเห็น เด็กยังไม่สามารถแยกความแตกต่างของเพศได้ และไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องนี้ หากถูกถามว่าเขาเป็นหญิงหรือชาย เด็กมักเลียนแบบคำพูดลงท้ายมากกว่าเข้าใจความหมายจริง ๆ แต่เด็กบางคนอาจสังเกตเห็นความแตกต่างของอวัยวะเพศได้ และอาจมองดูเพื่อนถ่ายปัสสาวะด้วยความฉงน และแปลกใจ

วัยอนุบาล 3-5 ปี 

เด็กอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไปจะเริ่มรับรู้ถึงความแตกต่างของอวัยวะเพศหญิงและชาย เริ่มยอมรับความเป็นหญิงหรือชายได้แล้ว เด็กวัยนี้จึงเริ่มให้ความสนใจในอวัยวะเพศ แสดงความอยากรู้อย่างเปิดเผย เช่น จ้องมองหรือแอบดูอวัยวะเพศของเด็กคนอื่น เปิดกระโปรงแม่ เป็นต้น เป็นความอยากรู้ของเด็ก เห็นได้ชัดในช่วงวัย 4-5 ปี และเด็กจะเริ่มบอกความแตกต่างทางกายภาพได้ เช่น ผู้หญิงไว้ผมยาวและนุ่งกระโปรง ผู้ชายตัดผมสั้นและนุ่งกางเกง โดยเรียนรู้บทบาททางเพศจากพ่อและแม่ และในวัย 5 ขวบ เด็กจะสามารถวาดรูปให้เห็นถึงความแตกต่างของหญิงและชายได้ อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนอาจยังสับสนเพราะการแต่งตัวหรือพฤติกรรมการแสดงออกทางเพศในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในกลุ่มเพศทางเลือก ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะมีบุคลิกลักษณะเป็นเพศเฉพาะของตนได้เมื่อพ้นวัย 5 ปีไปแล้ว 

คุยอะไรกับเด็กวัยนี้

เด็กในวัยอนุบาลจะยังไม่สามารถเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างแจ่มแจ้ง และยังแยกความเป็นจริงกับความคิดมโนภาพไม่ออก คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นผู้ชี้แจงและให้ความรู้ แม้จะมีคำถามแปลก ๆ ซ้ำ ๆ เกี่ยวกับเพศได้ ซึ่งคำถามมักจะเกี่ยวกับการเกิด การมีน้อง ความอยากรู้เกี่ยวกับอวัยวะเพศ ความสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เป็นต้น ซึ่งบางคนอาจถามมีคำถามเหล่านี้ไปจนถึง 8 ขวบ ผู้ใหญ่ควรตอบคำถามให้เด็กเข้าใจเหมือนตอบคำถามอื่น ๆ ด้วยท่าทีสงบ ใช้ภาษาง่าย ๆ เพราะคำถามของเจ้าตัวเล็กไม่ใช่คำถามทางกามารมณ์ แต่เป็นความอยากรู้ตามช่วงวัย ไม่ควรแสดงออกว่าคำถามของเจ้าตัวเล็กเป็นคำถามที่ไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้เด็กไม่กล้าพูดคุยด้วยอีกและขวนขวายหาคำตอบด้วยตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง 

พฤติกรรมที่พบได้

ถูไถอวัยวะเพศ มักพบในเด็กที่ไม่มีคนเอาใจใส่เท่าที่ควร หรือเด็กขาดความอบอุ่น หากพบเด็กที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ควรหาต้นตอของปัญหามีอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กไม่สบายใจ ให้ความเอาใจใส่ ไม่ปล่อยให้อยู่คนเดียว ชักจูงทำกิจกรรมอื่น ๆ ทดแทน แต่หากเด็กเป็นบ่อยหรือสงสัยว่าอาจเกิดความผิดปกติ ควรนำเด็กไปตรวจและปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีความผิดปกติทางร่างกาย

อวดและเล่นของลับ พบเห็นได้ในเด็กบางคนโดยเฉพาะเด็กผู้ชาย ส่วนหนึ่งถูกสร้างจากผู้ใหญ่ที่เห็นว่าการหยอกล้อเรื่องของลับเป็นเรื่องสนุกน่าเอ็นดูและชอบสัมผัส ทำให้เด็กเข้าใจผิด และสนใจอวัยวะเพศของตัวเองมาก ผู้ใหญ่ไม่ควรกระตุ้นเด็ก และไม่ควรสนับสนุนพฤติกรรมนี้ บอกถึงสิ่งที่เด็กควรทำ แต่ก็ไม่ควรเตือนบ่อยเกินไป หรือลงโทษให้เด็กกลัวมาก เพราะอาจเกิดต่อต้านได้ และผู้ใหญ่

เริ่มคุยกับลูกเรื่องเพศตั้งแต่เด็ก พวกเขาจะมีความรู้และทัศนคติเรื่องเพศที่ถูกต้อง ซึ่งคนที่จะให้คำแนะนำและเป็นต้นแบบที่ดีให้พวกเขาได้ก็คือพ่อแม่นั่นเอง เด็กเล็กก็คุยเรื่องเพศได้ หากเข้าใจพัฒนาการตามช่วงวัยของเขา