Do & Don’t ที่ต้องรู้! เมื่อลูกเป็นเพศหลากหลาย

Do & Don’t ที่ต้องรู้! เมื่อลูกเป็นเพศหลากหลาย

Loading

ถ้าบอกว่าในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ “เพศชาย” และ “เพศหญิง” แต่มีการนิยามเพศที่หลากหลายถึงเกือบ 20 แบบดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่าได้ตกใจหรือคิดว่าครอบครัวกำลังประสบปัญหา หากพบว่าลูกของคุณอยู่ในกลุ่มที่มีเพศหลากหลาย พ่อแม่ยุคปัจจุบันจึงควรเรียนรู้ DO & Don’tเรื่องที่“ควร” ทำและเรื่องที่ “ไม่ควร” ทำให้สมกับที่เป็นคุณพ่อ คุณแม่สมัยใหม่ที่พร้อมเรียนรู้และเติบโตเคียงข้างลูก ๆ ของคุณด้วยความเข้าใจ

DO

  • พ่อและแม่ควรหันหน้าเข้าหากันพูดคุยระหว่างกันเพื่อจัดการอารมณ์ตนเองให้พร้อม ก่อนที่จะไปพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล
  • จริงใจและตรงไปตรงมา พ่อแม่ผู้ปกครองควรคุยถึงเรื่องเพศสภาพของลูกด้วยความจริงใจและตรงไปตรงมา
  • บอกความรู้สึกไม่ใช่เรื่องผิดที่จะบอกความรู้สึกของพ่อแม่ให้ลูกได้รับรู้ เมื่อทราบเรื่องความหลากหลายทางเพศของลูก แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ใช้อารมณ์ไม่ตำหนิ และไม่ทำให้ลูกรู้สึกผิด
  • แสดงความเข้าใจแม้ว่าพ่อและแม่อาจยังไม่ได้รู้สึกดีกับเรื่องความหลากหลายทางเพศหรือเข้าใจมากนักแต่คุณควรแสดงความเข้าใจในอัตลักษณ์ทางเพศ และความต้องการของลูก
  • เตรียมพร้อมแก้ปัญหาในสังคมที่ยังมีความไม่เข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศลูกอาจถูกรังแก ถูกล้อเลียนพ่อและมือควรเตรียมพร้อมสำหรับการให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ รวมไปถึงการสื่อสารกับครูเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง
  • ช่วยให้ผู้อื่นยอมรับสิ่งที่ลูกเป็น หน้าที่สำคัญของพ่อแม่ผู้ปกครองประการหนึ่งสำหรับเด็กที่มีเพศทางเหลือกหลากหลาย คือการสร้างความเข้าใจให้กับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ เพื่อให้ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น
  • พาลูกหาความรู้การได้รับรู้ว่าลูกมีเพศทางเลือกเป็นโอกาสดีที่พ่อแม่จะเป็นผู้พาไปหาความรู้ที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ ทั้งจาก ชมรม คลินิก หรือกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัยรุ่นที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเป็นผลดีกว่าปล่อยให้เด็กหาความรู้แบบผิด ๆ ถูก ๆ ด้วยตนอง
  • พาไปพบผู้ใหญ่ที่ความหลากหลายทางเพศหาโอกาสให้ลูกได้รู้จักผู้ใหญ่ที่มีความหลากหลายทางเพศที่สามารถให้คำปรึกษาและเป็นแบบอย่างที่ดีกับลูกได้
  • ยอมรับเพื่อนที่มีความหลากหลายทางเพศของลูกซึ่งจะช่วยดูแลให้อยู่ในความเหมาะสมได้ด้วย
  • บอกให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กควรได้ตระหนักถึง เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข
  • พาลูกพบแพทย์/จิตแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางเพศ จะสามารถให้ปรึกษาในกรณีที่มีความจำเป็น ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงร่างกายเพื่อให้ตรงกับเพศสภาพหรือความสับสนในการแสดงออก

Don’t

  • ห้ามใช้ความรุนแรง เช่น ทุบตี หรือลงไม้ลงมือ เพราะไม่ได้ช่วยให้ลูกเปลี่ยนเพศได้
  • ห้ามล้อเลียน ด้วยการเรียกชื่อที่หยาบคาย น่าขบขัน ทำให้ลูกเกิดความอับอาย
  • กีดกันไม่ให้พบญาติ พ่อแม่บางคนอับอาย จึงไม่ให้ลูกเข้าร่วมกิจกรรมของครอบครัวหรือหมู่ญาติ
  • ห้ามคบเพื่อนที่มีความหลากหลายทางเพศเหมือนกัน
  • ปิดกั้นข้อมูลโดยไม่อนุญาตให้ลูกเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ
  • บังคับให้เป็นตามเพศสภาพด้วยการกดดันให้ลูกทำตัวให้มีความเป็นผู้หญิง/ผู้ชายตามเพศสภาพมากขึ้น
  • กล่าวโทษกันเองระหว่างคู่สามีภรรยา หรือกล่าวโทษลูกด้วยความกลัวผลต่อภาพลักษณ์ตนเอง
  • บอกลูกว่าบาป การข้ามเพศจะตกนรกหรือถูกลงโทษ หรือเป็นการทำกรรมไม่ดี
  • บอกลูกว่าอับอายหรือบอกว่าพฤติกรรมทางเพศที่แสดงออกนำความอับอายมาสู่ครอบครัว
  • บอกให้ลูกเก็บเป็นความลับ ว่าเป็นคนข้ามเพศ ไม่ให้บอกใคร และห้ามไม่ให้ใครในครอบครัวพูดถึง

ครอบครัวไหนที่มีลูกเป็นเพศทางเลือก พ่อแม่ควรตรวจสอบดูว่า เรื่องไหนที่ทำผิดพลาดไป แก้ไขและยืนเคียงข้างลูกอย่างเข้าใจยังทำได้เสมอ

.

เรื่องโดย : ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร หมอโอ๋ เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน”